วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 9



หมายเหตุ :: ไม่มีการเรียนการสอน เพราะเป็นวันหยุดเนื่องในวันขึ้นปีใหม่

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 8


หมายเหตุ :: ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากอยู่ในช่วงสอบกลางภาค ประจำภาคเรียนที่ 2/2555 ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2555 ถึง วันที่ 26 ธันวาคม 2555





วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 6


อาจารย์ยกตัวอย่าง ขอบข่ายของทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัย ทั้ง 12 ข้อโดยให้นักศึกษานำกล่องที่ไม่ใช้แล้วมา เช่น กล่องยาสีฟัน กล่องแบรนด์ 

อาจารย์อาจารย์ให้นักศึกษาแต่งละคนจินตนาการว่ากล่องที่ตนเองนำมานั้นเราจินตนาการได้เป็นอะไร กล่องที่ดิฉันนำมาดังภาพ


จินตนาการเป็นหีบสมบัติ

-อาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 11 คน โดยในแต่ละกลุ่มให้สมาชิกกลุ่มนำกล่องของตนออกมาวางต่อจากของเพื่อนๆในกลุ่มให้เป็นรูปร่างต่างๆ มีกติกาว่า ห้ามคุยและห้ามปรึกษากัน


 ผลงานกลุ่มของดิฉันคือ รถไฟ


นอกจากนี้ยังมีผลงานของกลุ่มอื่นๆอีกดังนี้
กลุ่มที่ 1 ต่อเป็นหุ่นยนต์
กลุ่มที่ 2 ต่อเป็นบ้าน
กลุ่มที่3 ต่อเป็นสถานีรถไฟ


สิ่งที่ได้รับจากการเรียนการสอนในวันนี้
                ได้เรียนรู้เกี่ยวกับนำสิ่งของเหลือใช้มาบูรณาการในการเรียนการสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเรื่องรูปทรง รูปเลขาคณิต” และยังช่วยส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการ สนุกสนานเวลาได้ทำกิจกรรม.


วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 5


คณิตศาสตร์ : สัญลักษณ์ทางภาษา

                           นิตยา  ประพฤติกิจ (2541 : 17 - 19) กล่าวว่า ขอบข่ายของคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัยควรประกอบด้วยหัวข้อของเนื้อหาหรือทักษะดังต่อไปนี้


                1. การนับ (Counting) เป็นคณิตศาสตร์เกี่ยวกับตัวเลขอันดับแรกที่เด็กรู้จัก เป็นการนับอย่างมีความหมาย เช่น การนับตามลำดับตั้งแต่ 1 - 10 หรือมากกว่านั้น
                2. ตัวเลข (Number) เป็นการให้เด็กรู้จักตัวเลขที่เห็นหรือใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ให้เด็กเล่นของเล่นเกี่ยวกับตัวเลข ให้เด็กได้นับและคิดเองโดยครูเป็นผู้วางแผนจัดกิจกรรม อาจมีการเปรียบเทียบแทรกเข้าไปด้วย เช่น มากกว่า น้อยกว่า ฯลฯ
                3. การจับคู่ (Matching) เป็นการฝึกฝนให้เด็กรู้จักการสังเกตลักษณะต่าง ๆ และจับคู่สิ่งที่เข้าคู่กัน เหมือนกัน หรืออยู่ประเภทเดียวกัน
                4. การจัดประเภท (Classification) เป็นการฝึกฝนให้เด็กรู้จักการสังเกตคุณสมบัติของสิ่งต่าง ๆ ว่ามีความแตกต่างหรือเหมือนกันในบางเรื่อง และสามารถจัดเป็นประเภทต่าง ๆ ได้
                5. การเปรียบเทียบ (Comparing) เด็กจะต้องมีการสืบเสาะและอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างของสองสิ่งหรือมากกว่า รู้จักใช้คำศัพท์ เช่น ยาวกว่า สั้นกว่า หนักกว่า เบากว่า ฯลฯ
                6. การจัดลำดับ (Ordering) เป็นเพียงการจัดสิ่งของชุดหนึ่ง ๆ ตามคำสั่งหรือตามกฎ เช่น จัดบล็อก 5 แท่ง ที่มีความยาวไม่เท่ากัน ให้เรียงตามลำดับจากสูงไปต่ำ หรือ จากสั้นไปยาว
                7. รูปทรงและเนื้อที่ (Shape and Space) นอกจากให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องรูปทรงและเนื้อที่จากการเล่มตามปกติแล้ว ครูยังต้องจัดประสบการณ์ให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า ความลึกตื้น กว้างและแคบ
                8. การวัด (Measurement) มักให้เด็กลงมือวัดด้วยตนเอง ให้รู้จักความยาวและระยะรู้จักการชั่งน้ำหนักและรู้จักการประมาณการอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่เด็กจะรู้จักการวัด ควรให้เด็กได้ฝึกฝนการเปรียบเทียบและการจัดลำดับมาก่อน
                9. เซต (Set) เป็นการสอนเรื่องเซตอย่างง่าย  ๆ จากสิ่งรอบ  ๆ ตัว  มีการเชื่อมโยงกับสภาพรวม  เช่น  รองเท้ากับถุงเท้า ถือว่าเป็นหนึ่งเซต หรือห้องเรียนมีบุคคลหลายประเภท แยกเป็นเซตได้ 3 เซต คือ นักเรียน ครูประจำชั้น ครูช่วยสอน เป็นต้น
                10. เศษส่วน  (Fraction)  ปกติการเรียนเศษส่วนมักเริ่มเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แต่ครูปฐมวัยสามารถสอนได้โดยเน้นส่วนรวม (The Whole Object) ให้เด็กเห็นก่อน มีการลงมือปฏิบัติเพื่อให้เด็กได้เข้าใจความหมายและมีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับครึ่งหรือ
                11. การทำตามแบบหรือลวดลาย (Patterning) เป็นการพัฒนาให้เด็กจดจำรูปแบบ หรือลวดลาย และพัฒนาการจำแนกด้วยสายตา ให้เด็กฝึกสังเกต ฝึกทำตามแบบและต่อให้สมบูรณ์
                12. การอนุรักษ์ หรือการคงที่ด้านปริมาณ (Conservation) ช่วงวัย 5 ขวบ ขึ้นไป ครูอาจเริ่มสอนเรื่องการอนุรักษ์ได้บ้าง โดยให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง จุดมุ่งหมายของการสอนเรื่องนี้ก็คือ ให้เด็กมีความคิดรวบยอดเรื่องการอนุรักษ์ที่ว่า ปริมาณของวัตถุจะยังคงที่ไม่ว่าจะย้ายที่หรือทำให้มีรูปร่างเปลี่ยนไปก็ตาม



วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 4


เข้าร่วมกิจกรรมงานกีฬาสีศึกษาศาสตร์สัมพันธ์
ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2555
ดิฉันได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ โดยเป็นกองเชียร์บนสแตน










วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 3




กิจกรรมและเนื้อหาในการเรียน

              สัปดาห์นี้อาจารย์ให้นักศึกษารวมกลุ่มกันกลุ่มละ 3 คน แล้วให้นำงานที่อาจารย์มอบหมายให้นักศึกษาแต่ละคนไปสืบค้นข้อมูลมา ให้นำขึ้นมาเตรียมไว้บนโต๊ะของตนเอง โดยงานที่ไปสืบค้นมีหัวข้อดังนี้
             1.) สืบค้นหนังสือคณิตสาสตร์จากสำนักวิทยบริการ
             2.) หาความหมายของคำว่า คณิตศาสตร์
             3.) จุดมุ่งหมายของการสอนคณิตศาสตร์
             4.) ทฤษฎีการสอนหรือวิธีการสอนคณิตศาสตร์
             5.) ขอบข่ายคณิตศาสตร์
             6.) หลักการสอนคณิตศาสตร์

                 จากนั้นให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำข้อมูลของแต่ละคนที่หามาได้ นำมาสรุปให้เป็นใจความเดียวกัน โดยในแต่ละข้อนั้น จะต้องมีอ้างอิงถึง ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง ชื่อผู้เขียน ปีพ.. เลขหน้า และเลขหมู่หนังสือ 

ภาพชิ้นงาน :: คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

              หลังจากที่นักศึกษาแต่ละกลุ่มได้ช่วยกันสรุปงานแต่ละหัวข้อเรียนร้อยแล้ว อาจารย์ได้ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนลุกขึ้นนำเสนอตามหัวข้อที่อาจารย์เลือก และแต่ละข้อต้องมีอ้างอิงถึง ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง ชื่อผู้เขียน ปีพ,, และเลขหน้าด้วย 


ประโยชน์และความรู้ที่ได้รับ

ความหมายของคำว่า คณิตศาสตร์
                คณิตศาสตร์มิได้หมายความเพียงตัวเลขสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เป็นศาสตร์ของการคิดคำนวณและการวัด มีการใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เป็นภาษาสากลเพื่อให้สื่อความหมาย คิดเป็น คิดเร็ว คิดแก้ปัญหาและเข้าใจได้
อ้างอิง ::  วลัยลักษณ์ อินธิชัย,พรทิพย์ สุมาลัย และธาลากมล โภคัง (2555)
                กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน,เยาวพา  เดชะคุปต์, 2528, หน้า 76

จุดมุ่งหมายของการสอนคณิตศาสตร์
1.เพื่อฝึกให้เป็นคนมีเหตุผล ละเอียด ถี่ถ้วน รอบคอบ
2.เพื่อเตรียมเด็กให้มีความพร้อมที่จะเรียนคณิตศาสตร์เบื้อต้น
3.เพื่อให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจค่าและความหมายของตัวเลข
4.เพื่อให้เด็กรู้จักการเปรียบเทียบ การแยกหมู่ รวมหมู่ การเพิ่มขึ้นและลดลง
5.เพื่อให้เด็กเข้าใจความหมายและใช้คำพูดเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ได้ถูกต้อง
6.เพื่อฝึกทักษะในการคิดคำนวณ
7.เพื่อให้สัมพันธ์กับวิชาอื่นและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
8.เกิดความคิดรวบยอดของวิชาคณิตศาสตร์
9.มีความสามารถในหารแก้ปัญหา
10.ส่งเสริมความเป็นเอกัตบุคคลในตัวเด็ก
อ้างอิง :: หนังสือการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตระดับปฐมศึกษา,มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,2526,                               หน้า 245-2467
                 หนังสือกิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน,เยาวพา เดชะคุปต์,2528,หน้า 71
  

ทฤษฎีการสอนหรือวิธีการสอนคณิตศาสตร์
                การจัดกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัยจะตต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1.มีความพร้อมที่จะเรียน
2.มีเวลาให้ค้นคว้าทดลอง
3.ใช้ภาษาและสัญลักษณ์
4.แสดงวิธีทำตามขั้นตอน
5.ครูร่วมกับเด็กปฏิบัติจริง
                ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เป็นความรู้พื้นฐานของเด็กที่ได้รับประสบการณ์ เกี่ยวกับการสังเกต การเปรียบเทียบ การจำแนกตามรูปร่าง ขนาด น้ำหนัก ความยาว ความสูง ความเหมือนและความแตกต่าง
อ้างอิง ::  คู่มือการบริหารโรงเรียนอนุบาล,การเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตระดับปฐมวัยศึกษา (2520)                                      หน้า 263-266
                  กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน,เยาวพา  เดชะคุปต์, 2528, หน้า 73
                  เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา,หน้า 2

ขอบข่ายคณิตศาสตร์
สาระที่ 1 การเปรียบเทียบ
สาระที่ 2 การเรียงลำดับ
สาระที่ 3 การวัด
สาระที่ 4 การจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง
สาระที่ 5 การนับ
สาระที่ 6 การจัดหมู่ การรวมหมู่ การแยกหมู่
สาระที่ 7 ภาษาคณิตศาสตร์และสัญลักษณ์
                การสอนคณิตศาสตร์แนวใหม่เป็นสิ่งที่ครูควรศึกษาเพื่อจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก ซึ่งมีเนื้อหาที่ควรพิจารณาในการสอนดังนี้
1.การจัดหมู่หรือเซท
2.จำนวน
3.ระบบจำนวน
4.ความสัมพันธ์ระหว่างเซทต่างๆ
5.คุณสมบัติของคณิตศาสตร์
6.ลำดับที่ ความสำคัญ
7.การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
8.การวัด
9.รูปทรงเรขาคณิต
10.สถิติและกราฟ
อ้างอิง :: กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน,เยาวพา  เดชะคุปต์, 2528, หน้า 76

หลักการสอนคณิตศาสตร์
                เพยเจท์ได้ให้เทคนิคซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการที่เด็กจะพัฒนาและเรียนรู้มโนทัศน์คณิตศาสตร์ดังนี้
1. เด็กจะสร้างความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ โดยการจัดกระทำต่อวัตถุ โดยวิธีธรรมชาติหรือด้วยตนเองเท่านั้น
2. เด็กทำความเข้าใจกระบวนการทางด้านคณิตศาสตร์หลังจากที่เด็กเข้าใจการใช้เครื่องหมายเท่านั้น
3. เด็กควรทำความเข้าใจมโนทัศน์คณิตศาสตร์ สอนที่จะเรียนรู้การใช้สัญลักษณ์ต่างๆทางคณิตศาสตร์
                การสอนคณิตศาสตร์ให้เด็กเล็กมี 2 ประการ
                1. การสอนให้เด็กคิด โดยใช้วัสดุต่างๆประกอบการสอน วิธีการนี้เริ่มต้นในโรงเรียนมอนเตสซอรี่ ในประเทศอังกฤษ
                2. การสอนตามสติปัญญาของผู้เรียน วิธีนี้จะแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อยๆให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่จะเรียน
อ้างอิง :: ปฐมวัยศึกษา:หลักสูตรและแนวปฏิบัติ,หรรษา นิลวิเชียร, หน้า 158-159 (2534)
                  กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน,เยาวพา เดชะคุปต์, 2528, หน้า 72



วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 2


                 สัปดาห์ที่ 2 ของการเรียนการสอน ในสัปดาห์นี้อาจารย์ได้สอนเกี่ยวกับสื่อ 3 มิติ กระบวนการในการเรียนรู้ และสอนเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัส โดยอาจารย์ได้ยกทฤษฎีการพัฒนาการทางสติปัญญาโดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเพียเจท์ มาอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์และความรู้ที่ได้รับ

-                   - สื่อสามมิติ หมายถึง  สื่อที่ผลิตจากวัสดุที่มีความกว้าง ความยาว ความหนาหรือลึก  ผู้เรียนสามารถรับรู้ได้หลายมุมมอง และการรับสัมผัสต่างๆ  สามารถรับรู้ได้ตามความเป็นจริง
 

                      -  หากมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็แสดงว่าเกิดการเรียนรู้
               - คณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและอยู่รอบๆตัวเรา เช่นเรื่องของรูปทรงเรขาคณิต ยกตัวอย่าง สมุดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า, แก้วน้ำเป็นทรงกระบอก เป็นต้น




วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 1

           
           สัปดาห์แรกในการเรียนการสอนในรายวิชา การจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยอาจารย์ได้ปฐมนิเทศเกี่ยวกับรายวิชาและร่วมกันสนทนาทำข้อตกลงภายในห้องเรียน


กิจกรรมและเนื้อหาในการเรียน
อาจารย์ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบ โดยเป็นแบบทดสอบแบบเปิดให้แสดงความคิดเห็นของตนเอง มีทั้งหมด 2 ข้อดังนี้
1.คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยคืออะไร (ตอบมา 2 ประโยค)
    = การเรียนรู้รูปทรงต่างๆและการนับจำนวนสิ่งของหรือเรียนรู้การเพิ่มลดจำนวน

2.คาดหวังว่าเรียนในวิชานี้จะทำให้เรารู้เรื่องหรือได้รับประสบการณ์ในเรื่องอะไรบ้าง (บรรยาย)
    = คาดหวังว่าจะได้รับความรู้ในรายวิชา หลักการ เทคนิคต่างๆในการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยอย่างถูกต้อง และได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำสื่ออิเล็ดทรอนิค เช่นการบันทึกการเรียนการสอนแต่ละสัปดาห์ลงในบล็อกออนไลน์


ประโยชน์และความรู้ที่ได้รับ



- สิ่งที่ควรคำนึงถึงเด็กปฐมวัย คือ เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน, พัฒนาการ, วุฒิภาวะ, การเรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5,   สภาพแวดล้อม, ความอยาก ฯลฯ
- ในการจัดประสบการณ์ต่างๆแก่เด็กปฐมวัย เราควรที่จะยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง 
- พัฒนาการ คือการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างต่อเนื่อง
- เมื่อเด็กมีประสบการ์เดิมอยู่แล้ว แล้วรับประสบการใหม่เข้าไปเรียกว่า"รับรู้" และถ้าหากเด็กสามารถน้ำประสบการณ์เดิมและประสบการณ์ใหม่มารวมกันทำให้พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนแปลงไปเรียกว่าเด็กเกิดการ"เรียนรู้"